เมื่อเร็วๆ นี้ DHL Express ผู้นำด้านการhttps://youtu.be/Rl-pkg_mA0Uขนส่งด่วนระหว่างประเทศของโลก แนะนำบริการ “นำเข้า” ใหม่ อำนวยความสะดวกสำหรับผู้ประกอบการ SME รายย่อย รวมถึงบุคคลทั่วไปที่ต้องการนำเข้าเอกสารหรือพัสดุจากต่างประเทศเข้ามาในไทย แต่ไม่ได้มีความถี่ในการนำเข้าบ่อยครั้ง บริการนำเข้าจาก DHL Express นี้ จะช่วยให้ผู้ใช้บริการจัดการการนำเข้าได้ด้วยตัวเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่กำหนดวันส่งและรับของ และจ่ายเงินค่าบริการนำเข้าล่วงหน้าด้วยบัตรเครดิต นำเข้าได้ทั้งเอกสารและพัสดุที่ไม่ใช่ของต้องข้ามหรือต้องกำกัด จาก 200 ประเทศทั่วโลกเข้ามาในไทย ถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีบริการนำเข้าที่ทำได้โดยไม่ต้องสมัครสมาชิกด้วย
บริการนำเข้าของ DHL Express นี้เองจึงเข้ามาตอบโจทย์การนำเข้าของจากต่างประเทศเข้ามาในไทย ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ซื้อผ่านอีคอมเมิร์ซและผู้ส่งต้นทางไม่สามารถจัดส่งของมาที่ไทยตามความต้องการได้ หรือการนำเข้าวัตถุดิบ สินค้าสำหรับนำมาทำการค้า และการนำเข้าเอกสารหรือของใช้ส่วนตัวที่จำเป็นและสำคัญ
จุดเด่นของบริการนำเข้าของ DHL Express นี้ ได้แก่
- ทำรายการนำเข้าได้เอง ผ่านเว็บไซต์ mydhl.express.dhl (เดสก์ท็อป)
- ชำระค่าบริการนำเข้าแบบ Pre-paid ผ่านบัตรเครดิต
- เชื่อมต่อการนำเข้าจาก 200 ประเทศทั่วโลกสู่ไทย ผ่านเครือข่ายขนส่งด่วนทางอากาศครอบคลุมทั่วโลก (ขนส่งผ่านเครื่องบิน)
- สะดวกด้วยบริการแบบ Door-to-door service ไม่ต้องออกจากบ้าน
- ติดตามสถานะการนำเข้าได้ง่ายผ่านระบบออนไลน์ MyDHL+
- ไม่จำเป็นต้องมีบัญชีนำเข้าหรือลงทะเบียนสมัครสมาชิก ก็สามารถใช้บริการนำเข้ากับ DHL Express ได้เลย
สิ่งสำคัญที่ควรทราบก่อนทำรายการนำเข้าคือ ต้องมั่นใจว่าสิ่งที่จะนำเข้ามาในประเทศไทยนั้นไม่ใช่ “ของต้องห้าม” ตามที่กรมศุลกากรระบุไว้ และหากเป็น “ของต้องกำกัด” จำเป็นจะต้องขออนุญาตนำเข้าจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสามารถตรวจสอบและอ้างอิงจากเว็บไซต์ของกรมศุลกากรได้โดยตรง
และอีกคำถามที่พบบ่อย ได้แก่ เรื่องอากรขาเข้า หากของที่นำเข้ามาในประเทศไทยมีราคาศุลกากร (CIF) ไม่เกิน 1,500 บาท รวมถึงไม่ใช่ “ของต้องห้าม” หรือ “ของต้องกำกัด” จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระอากรขาเข้า หากนอกเหนือจากนี้ จะต้องชำระอาการขาเข้าตามพิกัดภาษีที่กรมศุลกากรระบุ
สำหรับสินค้าที่นำเข้ามาในประเทศไทยและต้องชำระภาษีนำเข้า ทาง DHL Express จะเป็นผู้ดำเนินการจ่ายค่าภาษีศุลกากรในนามของลูกค้าก่อน (ไม่เกิน 50,000 บาท) เพื่ออำนวยความสะดวกและทำให้สินค้าส่งถึงมือผู้รับได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่คูเรียร์จะนำสินค้านั้นส่งไปที่ผู้รับ บริการ Advance Duty Collection ของ DHL Express จะส่งข้อความแจ้งยอดภาษีนำเข้าที่ผู้รับจะต้องชำระผ่าน SMS หรืออีเมล ซึ่งผู้รับสามารถจ่ายภาษีทางระบบออนไลน์ได้ผ่านบัตรเครดิตหรือจ่ายเงินสด
“บริการนำเข้าจาก DHL Express นี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้ใช้บริการ ตอกย้ำว่าเราเข้าใจความต้องการของลูกค้าและให้ความสำคัญกับลูกค้าทุกๆ กลุ่ม การนำเข้ามีส่วนสำคัญที่ขับเคลื่อนการค้าระหว่างประเทศให้เติบโต ทุกวันนี้ ธุรกิจต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทั่วโลกเพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปให้ได้ ในขณะที่การเดินทางระหว่างประเทศยังคงเป็นเรื่องท้าทายแต่การค้าระหว่างประเทศมีความสำคัญมากขึ้นและต้องดำเนินต่อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการนำเข้าวัตถุดิบ สินค้า หรือของใช้ที่จำเป็น DHL Express เชื่อว่าบริการนำเข้านี้จะช่วยเชื่อมโยงผู้คน องค์กรธุรกิจ และกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งในไม่ช้า”คุณเฮอร์เบิต วงศ์ภูษณชัย กรรมการผู้จัดการ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส ประเทศไทยและหัวหน้าภาคพื้นอินโดจีน กล่าว
ด้านสุณิสา ทิวากรดำรง ผู้ประกอบการ SME ที่ทำธุรกิจเทรดดิ้งและใช้บริการนำเข้ากับ DHL Expressในช่วงที่ยังไม่เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ กล่าวว่า “เราใช้บริการนำเข้ากับ DHL Express มา 4-5 ครั้งเพื่อนำเข้าเครื่องครัวจากฟิลิปปินส์เข้ามาในไทย เราสามารถบริหารจัดการการนำเข้าด้วยตัวเองได้อย่างง่ายดาย และสิ่งที่เราประทับใจมากที่สุดจากการใช้บริการนำเข้ากับ DHL Express นี้คือเรื่องคุณภาพของการให้บริการและการแสดงค่าบริการในเว็บไซต์ที่ชัดเจน”
สำหรับผู้สนใจใช้บริการนำเข้าของ DHL Express สามารถทำตาม 4 ขั้นตอนง่ายๆ ข้างล่างนี้
- เข้าเว็บไซต์ https://mydhl.express.dhl ผ่านเดสก์ท็อป กรอกข้อมูลสถานที่รับสินค้าในประเทศต้นทาง สถานที่ส่งสินค้าในประเทศไทย รายละเอียดและประเภทของสินค้า
- ตรวจสอบค่าบริการนำเข้า ชำระค่าบริการผ่านบัตรเครดิต ระบบจะแจ้งเลขหมาย Tracking Number หรือ waybill เป็นตัวเลข 10 หลัก เพื่อใช้สำหรับติดตามสถานะการนำเข้า
- ผู้ส่งในประเทศต้นทางยืนยันวัน เวลา และสถานที่ที่ให้เข้าไปรับของ จากนั้นเจ้าหน้าที่คูเรียร์ของ DHL Express ในประเทศต้นทางจะเข้าไปรับของตามสถานที่ที่ระบุไว้ (door to door service)
- ผู้รับที่ประเทศไทยสามารถติดตามสถานะการนำเข้าผ่านระบบออนไลน์ จากหมายเลข Waybill ที่เป็นตัวเลข 10 หลัก
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการนำเข้าจาก DHL Express ที่ https://bit.ly/dhl-import-th หรือชมวิดีโอสาธิตการทำรายการนำเข้าแบบละเอียดทุกขั้นตอนที่นี่
สำหรับบริการส่งของไปต่างประเทศจาก DHL Express สามารถคลิกปุ่มข้างล่างนี้เพื่อตรวจสอบราคาเบื้องต้นจากแพลตฟอร์มออนไลน์ iExpressByDHL