จากสถิติที่ผ่านมา มีการส่งยารักษาโรคและยาสมุนไพร รวมถึงยาคุมกำเนิด วิตามิน และอาหารเสริมจากประเทศไทยไปสหรัฐอเมริกาค่อนข้างมากโดยเฉพาะปี2563จนถึงปี 2564 เนื่องจากเป็นปีที่มีCOVID-19อันเป็นบททดสอบหนักหนาสาหัสของทั่วโลกแต่ก็ทำให้เราเห็นความต้องการและโอกาสในการส่งของไปต่างประเทศ รวมไปถึงการส่งยารักษาโรคและส่งยาสมุนไพรไปต่างประเทศมากขึ้นด้วย
เหตุผลที่ทำให้คนไทยส่งยาสมุนไพรหรือส่งยาไปต่างประเทศ
การพบหมอในต่างประเทศ: นัดยาก ใช้เวลานาน รักษาแพง
ที่ต่างประเทศนั้นการจะพบหมอได้ค่อนข้างเป็นเรื่องยาก ใช้เวลานาน รวมถึงค่ารักษาที่ค่อนข้างแพง และยังมีกำแพงทางภาษาในกรณีที่กลัวจะสื่อสารกับหมอได้ไม่รู้เรื่อง จึงทำให้เวลาป่วยแต่ละครั้งหากเป็นการป่วยแบบเล็กๆ น้อยๆ ก็มักจะหายามากินเองเป็นเรื่องที่ง่ายกว่า
รู้หรือไม่? ต้องใช้ใบสั่งยาจากแพทย์เพื่อซื้อยาคุมกำเนิดที่อเมริกา
ในขณะที่ยาคุมกำเนิดที่ประเทศไทยเป็นยาที่เข้าถึงง่าย ซื้อได้ทันทีที่ร้านขายทั่วไป แต่ที่อเมริกานั้น ในหลายๆ รัฐกำหนดชัดเจนว่าผู้ซื้อจะต้องเข้าพบแพทย์และใช้ใบสั่งยาจากแพทย์ (Doctor prescription) ถึงจะสามารถซื้อยาคุมกำเนิดได้ ทำให้ยาคุมกำเนิดเป็นสินค้าที่ถูกสั่งซื้อและส่งออกจากไทยค่อนข้างมาก เพราะหาซื้อที่อเมริกาได้ไม่สะดวกนั่นเอง
ยาสมุนไพร ไม่มีขายที่ต่างประเทศ ซื้อจากไทย ส่งยาไปต่างประเทศง่ายกว่า
ยาสมุนไพรและยาพื้นบ้านต่างๆ ก็เป็นตัวเลือกการบรรเทาที่คนไทยในต่างแดนนิยมใช้ รวมถึงไม่มีขายที่ต่างประเทศ ต้องที่ไทยเท่านั้น คนไทยในต่างแดนหลายคนเลยต้องใช้บริการส่งของจากไทยไปต่างประเทศกันหลายราย ได้แก่ ยาหอม ยาดม ยาลม ยาหม่อง ทั้งหลายนี่เอง
วิตามิน อาหารเสริม ซื้อของไทย คุ้นเคยกว่า ซื้อแล้วส่งยาไปต่างประเทศ
วิตามินและอาหารเสริมก็เช่นกัน ถึงแม้จะมีขายที่ต่างประเทศ แต่หากมีตัวที่กินและคุ้นเคยอยู่ที่ไทย หลายคนจึงสบายใจที่จะซื้อและส่งจากที่ไทยไปที่ต่างประเทศมากกว่า
ส่งยารักษาโรคและยาสมุนไพร จับกลุ่มคนไทยในสหรัฐอเมริกา
นอกเหนือจากการส่งยารักษาโรคและยาสมุนไพรจากไทยที่มีหน้าตาและคู่มือการใช้ที่คุ้นเคยไปให้ครอบครัว เพื่อน ญาติที่อยู่ต่างประเทศ ยังมีเทรนด์การขาย สำหรับผู้ค้าปลีกที่มองเห็นโอกาสสร้างรายได้ด้วยการส่งยารักษาโรคหรือยาสมุนไพรประเภทยาสามัญประจำบ้านไปยังคนไทยที่อยู่ไกลบ้านอย่างสหรัฐอเมริกาด้วย
สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศลำดับต้นๆ ที่ซื้อของทางออนไลน์เป็นยอดเงินกว่า709.78พันล้านเหรียญสหรัฐซึ่งเพิ่มขึ้นจากเก่าถึง18%และผลสำรวจยังบอกอีกว่า สินค้าประเภทอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าเกี่ยวกับการดูแลตัวเองนั้น เป็นสินค้าที่อยู่ในกลุ่มที่เติบโตเร็ว ยอดซื้อพุ่งก่อนจะเกิดการแพร่ระบาดของโรคเสียอีก
eMarketerบริษัททำวิจัยชั้นนำได้ทำนายไว้ว่าการซื้อขายสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่มนั้นจะเติบโตสูงขึ้นจาก23.4%เป็น58.5%ในขณะที่สินค้าเพื่อสุขภาพ ยารักษาโรค วิตามิน สินค้าเพื่อการดูแลตัวเอง และสินค้าเพื่อความสวยงาม จะเติบโตขึ้นจาก16.6%เป็น32.4%อีกทั้งe-marketplaceของสหรัฐอเมริกาก็เป็นช่องทางในการวางขายที่ง่ายและสะดวกได้รับความนิยมจากผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นeBayหรือAmazonรวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปหลังCOVID-19ก็มีการหันมาซื้อสินค้าทางออนไลน์กันมากขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้สามารถพูดได้ว่าอาจมีคนมองเห็นโอกาสการสร้างรายได้จากการอำนวยความสะดวกจัดส่งยาสมุนไพรและยารักษาโรคจากผู้ส่งในไทยไปสหรัฐอเมริกามาลองศึกษาวิธีการส่งยารักษาโรคและส่งยาไปต่างประเทศกัน!
เนื่องจากยารักษาโรคหรือยาสมุนไพรคือสิ่งที่บริโภคเข้าสู่ร่างกาย แม้เราคนไทยจะมองว่าเป็นยาบรรเทาอาการที่เราเคยเห็นหรือใช้ตามปกติในบ้านเรา แต่การจะส่งสิ่งเหล่านี้เข้าไปในต่างแดน โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกานั้น ต้องระบุรายละเอียดของการจัดส่งให้ครบถ้วน ห้ามขาดตกเป็นอันขาด เพราะนั่นหมายถึงโอกาสที่จะเกิดความล่าช้าในการส่งของไปสหรัฐอเมริกา และทุกๆ ชิปเม้นต์ที่เป็นยารักษาโรค ยาสมุนไพร ยาสามัญประจำบ้าน วิตามินบำรุงร่างกาย จะต้องผ่านการตรวจสอบโดยคณะกรรมการอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐอเมริกา 100% ไม่มีข้อยกเว้น ดังนั้น การเตรียมตัวเพื่อส่งยารักษาโรค ส่งยาไปต่างประเทศ หรือยาสมุนไพรจากประเทศไทยไปสหรัฐอเมริกาจึงสำคัญอย่างยิ่ง
การส่งยารักษาโรคและวิตามินอาหารเสริมไปสหรัฐอเมริกา ส่งอะไรได้บ้าง
- ยารักษาโรคทั่วไปหรือเฉพาะทาง
- ยาสามัญประจำบ้าน แก้ปวด ลดไข้
- ยาแผนโบราณ ยาสมุนไพร
- ยาบรรเทาอาการปวดเมื่อยอักเสบกล้ามเนื้อ ยาที่ใช้ทาภายนอก
- วิตามิน อาหารเสริมบำรุงร่างกาย
*สามารถส่งแบบบุคคลถึงบุคคลเท่านั้น ห้ามส่งเพื่อการค้า
ยาที่อาจมีสารออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทยารักษาโรคเฉพาะทางยาสมุนไพรยาแผนโบราณ
รายละเอียดสำหรับขาออกจากไทย
- ไม่ต้องเดินพิธีการขาออก
- มีใบสั่งยาจากแพทย์ พร้อมระบุชื่อและที่อยู่แพทย์ โดยต้องระบุยืนยันว่ายานั้นๆ สำหรับใช้รักษาส่วนบุคคล ระบุจุดประสงค์การใช้ยา ชื่อยา (ชื่อทางการ/ ชื่อสามัญของยา) ปริมาณการใช้ยา และเงื่อนไขการใช้ยา
- Invoiceต้องระบุให้ชัดเจนและถูกต้อง
- มีฉลากและข้อบ่งใช้ที่ชัดเจน
- ในกรณีที่เป็นยาสมุนไพรหรือยาแผนโบราณ ต้องได้รับการรับรองจาก อย.
ยาธาตุ ยาแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ แน่นท้องเกิดจากอาหารไม่ย่อย ยาพาราเซตามอล ยาไทลินอล ยาลดไข้ ยาสามัญประจำบ้าน ยาหม่อง ยานวดแก้ปวด
รายละเอียดสำหรับขาออกจากไทย
- ไม่ต้องเดินพิธีการขาออก
- มีใบสั่งยาจากแพทย์ พร้อมระบุชื่อและที่อยู่แพทย์ โดยต้องระบุยืนยันว่ายานั้นๆ สำหรับใช้รักษาส่วนบุคคล ระบุจุดประสงค์การใช้ยา ชื่อยา (ชื่อทางการ/ ชื่อสามัญของยา) ปริมาณการใช้ยา และเงื่อนไขการใช้ยา
- Invoiceต้องระบุให้ชัดเจนและถูกต้อง
- มีฉลากและข้อบ่งใช้ที่ชัดเจน
รายละเอียดการนำเข้าไปสหรัฐอเมริกา
กรณีผู้รับเป็นบุคคลซึ่งเป็นชาวอเมริกัน
- หากยาตัวนั้นมีจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาจะไม่สามารถนำเข้าได้
- หากยาตัวนั้นไม่ได้มีจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ พร้อมระบุชื่อและที่อยู่แพทย์ โดยต้องระบุยืนยันว่ายานั้นๆ สำหรับใช้รักษาส่วนบุคคล ระบุจุดประสงค์การใช้ยา ชื่อยา (ชื่อทางการ/ ชื่อสามัญของยา) ปริมาณการใช้ยา และเงื่อนไขการใช้ยา พร้อมชี้แจงถึงเหตุผลที่ต้องนำยาตัวนี้เข้ามาและความจำเป็นที่ไม่ใช้ยาตัวเดียวกันกับที่มีขายในประเทศ
กรณีผู้รับเป็นบุคคลซึ่งเป็นชาวต่างชาติ
- อนุญาตให้นำเข้าได้แต่ปริมาณที่จำกัด (สามารถใช้ได้สูงสุดไม่เกิน 90 วัน) และมีเอกสารแนบเพิ่มเติม ได้แก่
- หลักฐานระยะเวลาในการพำนักอาศัยที่สหรัฐอเมริกา(Proof of length of stay)
- Personal Medication Form
- ต้องระบุเลขประกันสังคมลงไปด้วย (SSN: Social Security Number)
ยาทุกประเภทจะต้องเคลียร์FDAและผู้รับต้องมีเอกสารข้อมูลต่อไปนี้ ได้แก่
- Invoice (ภาษาอังกฤษ)
- Importer of Record
- ถ้ามูลค่าเกิน $2,500 ต้องระบุSocial Security
- ถ้ามูลค่าเกิน $5,000 ต้องมีPower of Attorney
- Copy of prescription -สำเนาใบสั่งยา
- Proof of citizenship -หลักฐานยืนยันตัวตนว่าเป็นพลเมืองสหรัฐอเมริกาหรือเป็นชาวต่างชาติ
- Personal Medication Form
- Generic Name orActivePharmaceuticalIngredient -ชื่อยา ส่วนประกอบยา
- Used to Treat -จุดประสงค์ของยา
- Prescription -ใบสั่งยา
- Daily Dosage -ปริมาณการใช้ยา
- Units -ปริมาณยามีกี่เม็ด
- Value -มูลค่า
- Manufacturer's Name and Address–ชื่อบริษัทที่อยู่และประเทศของผู้ผลิต
วิตามินและอาหารเสริม
รายละเอียดสำหรับขาออกจากไทย
- ไม่ต้องเดินพิธีการขาออก
- Invoiceต้องระบุให้ชัดเจนและถูกต้อง
- มีฉลากและข้อบ่งใช้ที่ชัดเจน
รายละเอียดการนำเข้าไปสหรัฐอเมริกา
- หากมูลค่าไม่เกิน$800สามารถเคลียร์ด่วนออกได้ แต่หากเกิน$800ต้องมีเอกสารดังต่อไปนี้
- รายละเอียดของยา
- ชื่อที่อยู่บริษัทผู้ผลิต
- Prior Notice
- ถ้ามูลค่าเกิน$2,500ต้องมีIRS (International Revenue Service)
- ถ้ามูลค่าเกิน$5,000ต้องมีPower of Attorney
การขนส่งระหว่างประเทศ คือการนำสิ่งของออกจากประเทศหนึ่งเข้าไปสู่อีกประเทศหนึ่ง จึงจำเป็นต้องเคารพระเบียบการส่งออกและนำเข้าของแต่ละประเทศอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การส่งของไปต่างประเทศเป็นไปอย่างราบรื่นและหลีกเลี่ยงความล่าช้าในการจัดส่ง สำหรับการส่งออกจากประเทศไทยผ่านเครือข่ายการบินทางอากาศของ DHL Express นั้น ของทุกชิ้นจะผ่านการควบคุมมาตรฐานด้านความปลอดภัย โดยต้องเปิดตรวจพัสดุภัณฑ์ 100% และผ่านการเอ๊กซ์เรย์โดยผู้ชำนาญการ
สำหรับการส่งยารักษาโรค ยาสามัญประจำบ้าน ยาสมุนไพร วิตามิน ยาคุมกำเนิด อาหารเสริม ส่งยาไปต่างประเทศนั้น สามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการส่งไปเพื่อใช้เองหรือส่งไปเพื่อจำหน่าย ทั้งนี้ หากเป็นการส่งไปอเมริกาในรูปแบบ B2B ก็จะมีเงื่อนไขและเอกสารที่ต้องใช้ในการส่งแตกต่างจากการส่งประเภทบุคคลสู่บุคคล
ส่วนการส่งของหรือส่งยารักษาโรคไปต่างประเทศ ส่งไปยังปลายทางในประเทศอื่นๆ ก็จะแตกต่างออกไปเช่นกัน เพราะแต่ละประเทศมีข้อกำหนดในการนำเข้ายาที่ไม่เหมือนกัน ไม่ได้เหมือนกับการส่งไปสหรัฐอเมริกาเหมือนกันทุกประเทศ ดังนั้น ผู้ส่งจึงต้องศึกษาให้ดีก่อนวางแผนการจัดส่ง หากมีคำถามหรือไม่แน่ใจ ให้ DHL Express ให้คำแนะนำในการส่งของไปต่างประเทศ เพราะเราเป็นผู้นำในการนำเข้าและส่งออกที่ให้บริการครอบคลุม 220 ประเทศและมีเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานควบคู่กับหน่วยงานศุลกากรทั่วโลก แต่ถ้าพร้อมจะส่ง ไม่ว่าจะส่งของไปสหรัฐอเมริกา ส่งยาไปอเมริกา ส่งยารักษาโรค ยาสมุนไพร ฯลฯ ให้ iExpressByDHLแพลตฟอร์มออนไลน์จาก DHL Expressเป็นผู้ช่วยมือหนึ่งในการส่งของไปต่างประเทศของคุณ! ส่งเร็ว ส่งไว มั่นใจ เลือกใช้เรา!เช็กราคาเบื้องต้นได้ที่ https://iexpressbydhl.com/th/